ประเภทของ แบตเตอรี่ UPS ที่นิยมใช้และความแตกต่างของแต่ละแบบ

ถ้าเราพูดถึงอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าอย่าง UPS (Uninterruptible Power Supply) สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานเลยก็คือ แบตเตอรี่ หรือที่หลายคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า แบต UPS นั่นเองค่ะ

เพราะไม่ว่า UPS จะดีแค่ไหน ถ้าแบตเตอรี่ไม่พร้อมใช้งาน ก็เหมือนมีเครื่องแต่ไม่มีแรงขับเคลื่อน ดังนั้น ถ้าเรากำลังเล็งๆจะซื้ออยู่ หรือ แม้กระทั้งใช้งาน UPS อยู่แล้วก็ตาม การรู้จักประเภทของแบตเตอรี่ UPS จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ

แบตเตอรี่ UPS คืออะไร?

ก่อนจะลงลึกในแต่ละประเภท ขอเกริ่นก่อนนิดนึงว่า แบตเตอรี่ UPS คือแหล่งพลังงานสำรองที่อยู่ภายในเครื่อง UPS โดยหน้าที่ของมันคือ จ่ายไฟให้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ต่อได้อีกระยะหนึ่งหลังจากเกิดไฟดับ

ระยะเวลาการสำรองไฟ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความจุของแบต ขนาดโหลด และประเภทของแบตเตอรี่ที่ใช้ ยิ่งอุปกรณ์ที่เสียบกับ UPS ใช้ไฟเยอะ แบตยิ่งหมดเร็ว ดังนั้นการเลือกขนาดและชนิดของแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานจึงสำคัญมาก

นอกจากนี้ แบต UPS ยังมีผลต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าในช่วงที่ไฟกระชากหรือไฟตก เพราะมันจะช่วยจ่ายไฟต่อเนื่องได้อย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะเสียหายจากแรงดันไฟที่ไม่นิ่ง

นี่แหละค่ะ ที่ทำให้เราต้องมาทำความรู้จักกับแต่ละประเภทให้ดีขึ้น จะได้เลือกใช้งานได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

1.แบตเตอรี่แบบ SLA (Sealed Lead Acid) หรือ VRLA

นี่คือแบต UPS ที่เราจะได้เจอบ่อยที่สุด โดยเฉพาะใน UPS ตามบ้านหรือสำนักงานทั่วไป

จุดเด่น

• ราคาย่อมเยา
• ดูแลรักษาง่าย (ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น)
• ปิดผนึกแน่น ไม่มีของเหลวหก
• อายุใช้งานเฉลี่ยประมาณ 2-5 ปี

ข้อควรรู้

• ไม่ชอบความร้อน หากวางในที่อับหรืออุณหภูมิสูงจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
• ต้องเปลี่ยนแบตใหม่เมื่อหมดอายุการใช้งาน ไม่สามารถชาร์จได้ตลอดไป

แบตประเภทนี้เหมาะกับ UPS ขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, เราท์เตอร์ หรือเครื่อง POS

2. แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion

เริ่มเห็นมากขึ้นใน UPS รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะในระดับอุตสาหกรรมหรือองค์กรที่ต้องการความเสถียรสูง

จุดเด่น

• อายุการใช้งานยาวนานกว่า SLA หลายเท่า (เฉลี่ย 8–10 ปี)
• น้ำหนักเบา
• ชาร์จไฟได้รวดเร็ว
• ทนความร้อนได้ดีกว่าแบต SLA

ข้อควรรู้

• ราคาค่อนข้างสูงกว่ามาก
• หากมีความร้อนสูงเกิน อาจเกิดปัญหาได้ (แต่ UPS รุ่นใหม่มีระบบป้องกัน)

แบต Lithium-ion มักอยู่ใน UPS ที่ต้องการความเสถียรสูง เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์, ระบบกล้องวงจรปิด หรือธุรกิจที่ต้องเปิดเครื่องต่อเนื่อง

3. แบตเตอรี่แบบ NiCd (Nickel-Cadmium)

แบต UPS แบบนี้อาจไม่ค่อยเห็นในบ้านทั่วไป เพราะส่วนใหญ่ใช้ในงานเฉพาะทางจริงๆ

จุดเด่น

• ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการใช้งานหนัก
• อายุการใช้งานนาน
• ใช้งานได้ดีแม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เสถียร

ข้อควรรู้

• มีสารแคดเมียมซึ่งเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
• ต้องมีการจัดการการกำจัดแบตที่ปลอดภัย
• ราคาสูง และไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป

เหมาะกับโรงงานหรือสถานที่ที่ต้องสำรองไฟต่อเนื่องนานๆ เช่น ระบบอิเล็กทริคในรถไฟฟ้า หรือระบบควบคุมในโรงงาน

แล้วเราควรเลือกแบตเตอรี่ UPS แบบไหนดี?

คำตอบง่ายๆเลยคือ เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของคุณค่ะ

หากไม่แน่ใจว่าแบตเดิมเป็นแบบไหน หรือควรเปลี่ยนเมื่อไร อาจสังเกตจากอายุการใช้งาน หรือไฟแจ้งเตือนบนเครื่อง UPS หรือจะปรึกษากับช่างของทาง MaxiPowerPlus เราก็ยินดีพร้อมตอบทุกคำถามค่ะ

การดูแลแบต UPS ให้อยู่ได้นานขึ้น

แม้ว่า แบตเตอรี่ UPS จะเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนติดตั้งแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ใช้งานอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ว… การดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของแบต และทำให้ UPS ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในเวลาที่จำเป็น

• วางในที่อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น
• หลีกเลี่ยงความร้อนหรือแสงแดดโดยตรง
• ไม่เสียบอุปกรณ์เกินกำลังของ UPS
• ตรวจเช็กแบตทุก 6 เดือน – 1 ปี
• เมื่อแบตเริ่มเสื่อม ควรเปลี่ยนทันทีเพื่อไม่ให้ UPS เสียหายตาม

ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน ออฟฟิศ หรือระบบที่ต้องเปิดต่อเนื่องตลอดเวลา แบต UPS คือตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เราสบายใจได้ว่า ในวันที่ไฟดับกะทันหัน อุปกรณ์ของเราจะยังปลอดภัย ข้อมูลไม่หาย และงานไม่สะดุด

การเลือกแบต UPS ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน จึงไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่คือการลงทุนกับความต่อเนื่องของทุกสิ่งที่คุณกำลังทำหรือสร้างอยู่ด้วย

มั่นใจได้…เมื่อใช้ MaxiPowerPlus ถ้าคุณกำลังมองหาแบตเตอรี่ UPS คุณภาพดี อายุการใช้งานยาวนาน เราขอแนะนำ MaxiPowerPlus  ทั้งแบตเตอรี่และ UPS พร้อมใช้งานจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ รองรับการใช้งานทั้งระดับบ้าน ออฟฟิศ ไปจนถึงอุตสาหกรรม

• สินค้ามาตรฐาน พร้อมการรับประกัน
• มีทีมให้คำแนะนำ เลือกรุ่นให้เหมาะกับอุปกรณ์ของคุณ
• ส่งด่วนทั่วประเทศ พร้อมบริการหลังการขาย

สามารถติดต่อทีมงานเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้ค่ะ  

LINE: https://lin.ee/hHBrup5

Facebook: MaxiPowerPlus

โทร: 02-152-6590, 095-956-4514, 084-053-1494