เคล็ดลับการเลือกซื้อ แบตสำรองไฟ ให้คุ้มค่าและปลอดภัย

62 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แบตสำรองไฟ

ถ้าคุณกำลังมองหา แบตสำรองไฟ แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรดี? เลือกกี่ VA? ดูแค่ราคา? หรือ มีจุดไหนที่ควรระวังอีก? MaxiPowerPlus ขอทำหน้าที่รวบรวมทุกประเด็นร้อนที่มือใหม่ควรรู้ก่อนซื้อแบตสำรองไฟ จากประสบการณ์จริงที่หลายคนได้เจอกันมา ไม่ว่าจะใช้งานในบ้าน ออฟฟิศ ร้านค้า หรือระบบกล้องวงจรปิด เราจะพาคุณไปรู้จักเคล็ดลับเลือกซื้อ UPS ให้คุ้มค่า ใช้ได้นาน และที่สำคัญที่สุด… ต้องปลอดภัยกับอุปกรณ์ของคุณอย่างแท้จริงค่ะ

เคล็ดลับเลือกซื้อ แบตสำรองไฟ ให้คุ้มค่าและปลอดภัย

1.รู้ก่อนว่าใช้งานกับอะไร

เริ่มต้นด้วยคำถามง่ายๆ ว่า...คุณจะใช้แบตสำรองไฟกับอุปกรณ์ประเภทไหน?

  • คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ก?
  • เครื่องใช้สำนักงานหลายชิ้นพร้อมกัน?
  • อุปกรณ์สำคัญ เช่น ตู้เซิร์ฟเวอร์, กล้องวงจรปิด หรือเครื่องมือแพทย์?

เพราะประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้งาน มีผลโดยตรงกับกำลังไฟ (VA) ที่ควรเลือก ถ้าใช้กับแค่อุปกรณ์เดียว UPS ขนาดเล็กก็เพียงพอ แต่ถ้าใช้งานพร้อมกันหลายเครื่อง หรือเป็นอุปกรณ์สำคัญ ควรเลือก UPS ที่มีกำลังไฟสูงขึ้นค่ะ

2. เลือกกำลังไฟ (VA) ให้เหมาะสม

VA (Volt-Ampere) คือหน่วยวัดกำลังไฟของแบตสำรองไฟ โดยทั่วไปแล้ว การเลือกควร “เผื่อไว้เล็กน้อย” จากการใช้งานจริง

ตัวอย่างเช่น

  • คอมพิวเตอร์ + จอ 1 เครื่อง อาจใช้ประมาณ 600–800VA
  • เครื่อง POS + Router อาจใช้ประมาณ 1000VA
  • อุปกรณ์เครือข่าย หรือเซิร์ฟเวอร์เล็ก ๆ แนะนำ 1500VA ขึ้นไป

ยิ่ง VA มาก แบตก็สำรองไฟได้นานขึ้นและรองรับอุปกรณ์ได้มากขึ้น แต่ก็จะมีราคาสูงขึ้นด้วย ดังนั้นควรเลือกให้พอดีกับความต้องการ

3. เลือกประเภทของแบตสำรองไฟให้เหมาะ

UPS หรือแบตสำรองไฟมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน

  • Offline UPS: ราคาถูก ใช้งานพื้นฐาน เหมาะกับบ้านทั่วไป
  • Line Interactive UPS: มีระบบปรับแรงดันไฟอัตโนมัติ (AVR) เหมาะกับสำนักงานขนาดเล็ก
  • Online UPS: จ่ายไฟผ่านอินเวอร์เตอร์ตลอดเวลา ไม่มีดีเลย์เวลาไฟดับ เหมาะกับระบบสำคัญ เช่น เซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์

4. เช็กระบบความปลอดภัยในตัวเครื่องให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อ

แบตสำรองไฟ (UPS) ที่ดี ไม่ใช่แค่จ่ายไฟต่อได้ตอนไฟดับ เท่านั้น แต่ควรมี ระบบเสริมด้านความปลอดภัย ที่ช่วยปกป้องทั้งอุปกรณ์ของคุณ และตัว UPS เองให้ใช้งานได้นานและปลอดภัยยิ่งขึ้น มาดูกันค่ะว่าระบบอะไรบ้างที่ควรมี

ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อโหลดเกิน

  • บางครั้งเราอาจเผลอเสียบอุปกรณ์หลายชิ้นเกินไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่มีระบบระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อโหลดเกินนี้ UPS อาจร้อนจัดหรือพังได้ 
  • แต่ถ้ามีระบบตัดไฟ ก็จะช่วยตัดการทำงานทันทีเมื่อเกินขีดจำกัด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ระบบกันไฟกระชาก (Surge Protection)

  • ไฟกระชาก คือ เหตุการณ์ที่แรงดันไฟฟ้าสูงผิดปกติในชั่วขณะ (เช่น เวลาฟ้าผ่า หรือมีเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟสูงเปิด-ปิดกระทันหัน) หากอุปกรณ์ไม่มีระบบตัวนี้ อาจทำให้คอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์เสียหายถาวรได้ 
  • UPS ที่ดีควรมีระบบนี้ในตัว เพื่อกรองไฟก่อนส่งเข้าเครื่องของคุณ

ระบบปรับแรงดันไฟอัตโนมัติ (AVR – Automatic Voltage Regulation)

  • ในบางพื้นที่ ไฟอาจตกบ่อยหรือแรงดันไม่คงที่ ซึ่งอาจส่งผลเสียกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 
  • ระบบ AVR จะช่วยปรับไฟให้นิ่งก่อนจ่ายเข้าสู่อุปกรณ์ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อีกเยอะ

ระบบแจ้งเตือนแบตเตอรี่

เมื่อแบตเสื่อมหรือชาร์จเต็มแล้ว UPS ที่มีไฟแสดงสถานะหรือเสียงแจ้งเตือนจะช่วยให้คุณรู้ทัน เช่น แบตเสื่อมจนจ่ายไฟได้ไม่นาน หรือมีปัญหาในการชาร์จระบบเตือนเหล่านี้มีประโยชน์มาก เพราะจะช่วยให้คุณไม่พลาดเวลาเปลี่ยนแบต และป้องกันเหตุไม่คาดฝันในอนาคต

หน้าจอหรือไฟสถานะแบบเรียลไทม์ (บางรุ่น)

UPS รุ่นใหม่ ๆ อาจมาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่แจ้งสถานะไฟเข้า ไฟออก ปริมาณโหลด หรือแบตคงเหลือ ช่วยให้คุณตรวจสอบได้ตลอดเวลา และวางแผนการใช้งานได้แม่นยำขึ้น

5. อย่าลืมเรื่องแบตเตอรี่ภายใน

หัวใจของแบตสำรองไฟอยู่ที่ “แบตเตอรี่ภายใน”  โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

  • แบตเตอรี่ SLA (Sealed Lead Acid) ราคาย่อมเยา อายุใช้งานเฉลี่ย 2–3 ปี เหมาะกับผู้เริ่มต้น
  • แบตเตอรี่ Lithium-ion อายุการใช้งานยาวนาน น้ำหนักเบา แต่ราคาสูงกว่า

ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ควรเช็กว่าแบตภายในสามารถเปลี่ยนได้ง่าย มีอะไหล่ และศูนย์บริการหรือไม่

6. อย่าลืมเผื่อพื้นที่ในการติดตั้ง

UPS หรือแบตสำรองไฟบางรุ่นมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ควรเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสม และควรตั้งไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรวางไว้ใกล้แหล่งความร้อนหรือแดดจัด เพราะอาจทำให้แบตเสื่อมเร็ว

7. ดูแบรนด์และการรับประกัน

สุดท้ายนี้ ควรเลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกัน และสามารถติดต่อทีมงานเพื่อสอบถามหรือเคลมสินค้าได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ คุณจะได้อุ่นใจว่ามีคนดูแลตลอดการใช้งานเครื่อง UPS

เลือกแบตสำรองไฟให้ถูก ใช้ได้นาน คุ้มค่า ปลอดภัย

การเลือกซื้อ แบตสำรองไฟ ไม่ใช่แค่ซื้อรุ่นที่ถูกที่สุด หรือจ่ายแพงแล้วจะดีเสมอไป แต่คือการเลือก “ให้เหมาะกับการใช้งานจริงของคุณ” ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน ออฟฟิศ ร้านค้า หรือองค์กรขนาดใหญ่
7 ข้อที่เรารวบรวมมานี้ ได้แก่ การรู้ประเภทการใช้งาน, เลือก VA ให้พอดี, ดูระบบความปลอดภัย, ประเภทแบตเตอรี่, ขนาดพื้นที่ติดตั้ง ไปจนถึงแบรนด์และการรับประกัน ซึ่งทุกข้อล้วนเป็นสิ่งที่ควรเช็กให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อ UPS เครื่องนึง 

และถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน...ให้ MaxiPowerPlus ดูแลคุณตั้งแต่ก้าวแรกนะคะ เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็น

  • Micro UPS สำหรับบ้าน ร้านค้า สำนักงาน
  • Medium & Maxi UPS สำหรับองค์กร โรงงาน หรือศูนย์ข้อมูล

มีทั้งแบบ Offline, Line Interactive, และ Online พร้อม บริการจัดส่ง ติดตั้ง และดูแลหลังการขาย
สามารถติดต่อทีมงานเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้ค่ะ 

LINE: https://lin.ee/hHBrup5

Facebook: MaxiPowerPlus

โทร: 02-152-6590, 095-956-4514, 084-053-1494

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้