38 จำนวนผู้เข้าชม |
UPS หรือแบตสำรองไฟเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนพึ่งพาในการทำงาน แต่มันก็เหมือนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปที่มีอายุการใช้งาน เมื่อถึงเวลาแบตเตอรี่ภายในก็จะเริ่มเสื่อมสภาพได้ และปัญหาใหญ่ของหลาย ๆ คน คือ ไม่รู้ว่าแบตสำรองไฟของตัวเองกำลังจะพัง จนกระทั่งวันที่ไฟดับจริง ๆ แล้วมันไม่ทำงาน ทำให้เสียงานหรือข้อมูลสำคัญไปโดยไม่ทันตั้งตัว
วันนี้เรามาดูกันว่า มีสัญญาณอะไรบ้างที่จะบอกเราล่วงหน้าได้ว่า แบตสำรองไฟกำลังจะพัง พร้อมวิธีการดูแลรักษาให้อายุยืนยาวขึ้น
สัญญาณแรกและชัดเจนที่สุดคือ เวลาสำรองไฟที่สั้นลงมาก เมื่อเทียบกับตอนซื้อใหม่ๆ อย่างตอนซื้อใหม่ UPS อาจจะสำรองไฟให้คอมพิวเตอร์ได้ 15-20 นาที แต่ตอนนี้สำรองได้น้อยลง หรือแค่ 3-5 นาทีก็แสดงว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพแล้วค่ะ แม้ว่าการลดลงของเวลาสำรองไฟนี้จะเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติการใช้งานของแบตสำรองไฟ แต่ถ้าลดลงมากกว่า 50% ของความสามารถเดิม ก็ควรพิจารณาเปลี่ยนแบตใหม่ได้แล้ว
วิธีทดสอบ คือ ลองถอดปลั๊กไฟของ UPS ออกจากผนัง แล้วจับเวลาดูว่าสามารถสำรองไฟได้นานแค่ไหน (แนะนำว่า ทำตอนที่ไม่มีงานสำคัญเปิดค้างไว้อยู่นะคะ)
UPS ส่วนใหญ่จะมีระบบเตือนเสียง และเมื่อแบตเตอรี่เริ่มมีปัญหา มันก็จะส่งเสียงเตือนที่ผิดแปลกไปจากเดิมที่คุณเคยได้ยินค่ะ เช่น
UPS บางเครื่องจะมีไฟ LED แสดงสถานะ ถ้าเห็นไฟสีแดงหรือไฟกระพริบผิดปกติ ก็ควรตรวจสอบคู่มือเพื่อดูว่าหมายถึงอะไร
หากคุณเปิดดู UPS และพบว่า แบตสำรองไฟมีการบวมตัว หรือมีของเหลวสีขาวหรือสีเขียวรั่วออกมา นี่คือสัญญาณอันตรายที่ต้องลงมือจัดการทันที ไม่สามารถปล่อยไว้ได้
การบวมของแบตเตอรี่เกิดจากการสะสมของแก๊สภายในแบตเตอรี่ที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมี เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ส่วนของเหลวที่รั่วไหลนั้นคือกรดแบตเตอรี่ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง สามารถกัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
วิธีจัดการ คือ ควรหยุดใช้งาน UPS ทันที นำแบตเตอรี่ที่เสียไปทิ้งตามจุดรับซื้อแบตเตอรี่เก่า และทำความสะอาดพื้นที่ที่มีของเหลวรั่วไหลด้วยผ้าชุบน้ำ และสวมถุงมือป้องกันทุกครั้ง
ในสภาวะปกติ UPS จะมีความร้อนเล็กน้อยจากการทำงานอยู่แล้ว แต่ถ้าร้อนมากจนแตะแล้วลวกมือหรือมีกลิ่นที่ผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของแบตเตอรี่ที่กำลังจะพัง ซึ่งสาเหตุเกิดจากแบตสำรองไฟเก่า ใช้งานมานาน ตัวแบตจะทำงานหนักขึ้น ทำให้เกิดความร้อนสะสมมากขึ้น
วิธีตรวจสอบ คือ ในขณะที่ UPS ทำงานปกติ ลองใช้มือแตะที่ตัว UPS (ไม่ใช่ช่องเสียบปลั๊ก) ถ้ารู้สึกร้อนมากผิดปกติ ควรหยุดใช้งานและตรวจสอบ
สัญญาณสุดท้ายคือ UPS ทำงานไม่เสถียร เช่น ปิดเปิดเองโดยไม่มีสาเหตุ หรือสลับระหว่างโหมดแบตเตอรี่และไฟบ้านบ่อย ๆ แม้ไฟบ้านจะปกติ พฤติกรรมผิดปกติที่ควรสังเกต เช่น
ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจากแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถรักษาแรงดันไฟที่เสถียร หรือชาร์จไฟไม่ได้เต็มที่
นอกจากสังเกตสัญญาณเตือนแล้ว การดูแลรักษาUPS ง่าย ๆ ที่บ้าน ก็สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานได้เหมือนกัน
UPS เป็นเหมือนอุปกรณ์ปกป้องสำหรับเครื่อใช้ไฟฟ้าของคุณอีกที การดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อเวลาที่ต้องใช้งานจริงๆมาถึง คุณจะมั่นใจได้ว่ามันจะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหากคุณกำลังมองหาแบตสำรองไฟ UPS ที่ตอบโจทย์ พร้อมคำแนะนำที่ไว้ใจได้ เรายินดีให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่ค่ะ ทีมแอดมินพร้อมดูแลและแนะนำรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณโดยเฉพาะ
สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้นะคะ ทีมงานแอดมินพร้อมดูแลค่ะ
ไลน์ : https://lin.ee/hHBrup5
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/profile.php?id=61558303007062
โทรติดต่อ : 02-152-6590, 095-956-4514, 084-053-1494