41 จำนวนผู้เข้าชม |
เวลาเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟ (UPS) หลายคนอาจจะสับสน เพราะมีรุ่นและแบบให้เลือกเยอะมากมาย ทั้งแบบราคาประหยัด และแบบพรีเมียมที่ราคาสูงขึ้นอีกหน่อย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเราควรเลือกแบบไหน?
ความจริงแล้ว UPS แต่ละรุ่นไม่ได้ต่างกันแค่ “ราคา” เท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลกับการใช้งานจริงด้วย วันนี้ Maxipowerplus จะพาไปดูว่า ความต่างของแต่ละรุ่นคืออะไร และจะช่วยให้คุณเลือก UPS ได้แบบไม่เสียเงินเปล่าแน่นอนค่ะ
เครื่องสำรองไฟฟ้าราคาประหยัด มักมีราคาอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท ในขณะที่รุ่นพรีเมียมอาจเริ่มต้นที่ 3,000 บาทไปจนถึงหลักหมื่น เรียกได้ว่าแตกต่างกันหลายเท่าตัว แต่ความแตกต่างของราคานี้มาจากอะไรบ้าง? อยากชวนทุกคนมาสังเกตไปพร้อมๆกันค่ะ
รุ่นราคาประหยัด | รุ่นพรีเมียม |
มักใช้พลาสติกคุณภาพปานกลาง ซึ่งทนความร้อนได้น้อยกว่า การออกแบบวงจรภายในแบบพื้นฐาน เน้นการทำงานขั้นต่ำ น้ำหนักเบากว่า เนื่องจากใช้วัสดุและชิ้นส่วนที่ราคาไม่แพง | ใช้วัสดุพรีเมียม เช่น พลาสติกเกรด ABS หรือมีโลหะผสมเพื่อระบายความร้อนที่ดีกว่า การออกแบบวงจรที่มีความซับซ้อน มีระบบตรวจสอบและป้องกันหลายชั้น |
รุ่นราคาประหยัด | รุ่นพรีเมียม |
มักใช้แบตเตอรี่เกรดรองที่มีอายุการใช้งานสั้น (1-2 ปี) ความสามารถในการจ่ายไฟสำรองมีจำกัด (5-15 นาที) จำนวนรอบการชาร์จที่น้อยกว่า ทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย | ใช้แบตเตอรี่คุณภาพสูง อายุการใช้งานยาวนานกว่า (3-5 ปี) จ่ายไฟสำรองได้นานกว่า (20-30 นาที หรือมากกว่า) มีจำนวนรอบการชาร์จมากกว่า ลดความถี่ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ |
รุ่นราคาประหยัด | รุ่นพรีเมียม |
มักเป็นเทคโนโลยี Standby หรือ Line-interactive ระดับพื้นฐาน การแสดงสถานะแบบไฟ LED พื้นฐาน ไม่มีพอร์ตสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ หรือมีแบบพื้นฐาน อาจไม่มีระบบกรองไฟ (Surge Protection) ที่มีประสิทธิภาพสูง | ใช้เทคโนโลยี True Online Double Conversion ที่ให้กระแสไฟคงที่ตลอดเวลา มีจอแสดงผล LCD แสดงข้อมูลการใช้งานละเอียด เช่น แรงดันไฟเข้า-ออก, เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่, เวลาสำรองไฟที่เหลือ มีพอร์ตสื่อสารหลากหลาย (USB, RS-232, SNMP) พร้อมซอฟต์แวร์จัดการอัจฉริยะ ระบบกรองไฟประสิทธิภาพสูง ป้องกันไฟกระชาก, ไฟตก, ไฟเกิน |
รุ่นราคาประหยัด | รุ่นพรีเมียม |
ระบบป้องกันพื้นฐาน เช่น ป้องกันไฟลัดวงจร, ไฟเกิน อาจขาดมาตรฐานรับรองความปลอดภัยระดับสากล เมื่อเกิดความผิดปกติ อาจเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ | ระบบป้องกันหลายชั้น รวมถึงระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เช่น UL, CE, TÜV ระบบป้องกันความร้อนสูงเกิน (Overheating Protection) ให้การปกป้องอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า |
ข้อแนะนำ : อยากให้ทุกท่านมองว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ไม่ควรประนีประนอม โดยเฉพาะเมื่อเครื่องสำรองไฟฟ้าต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง การใช้เครื่องที่มีระบบป้องกันที่ดี และ เสถียร จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย
ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องสำรองไฟสักตัว อยากให้พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ด้วยนะคะ
สุดท้ายแล้ว การเลือกเครื่องสำรองไฟฟ้าก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ
ลองถามตัวเองว่า: "ความเสียหายจากไฟดับหรือไฟกระชากหนึ่งครั้งจะทำให้ฉันสูญเสียมากกว่าราคาของ UPS รุ่นพรีเมียมหรือไม่?" คำตอบของคำถามนี้ จะช่วยให้คุณเลือกได้อย่างถูกต้อง
ที่ Maxipowerplus เราจำหน่าย UPS จาก APC และ KEHUA TECH เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นแบรนด์มาตรฐานระดับโลก และมีหลากหลายราคาที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของคุณ ไม่ว่าคุณจะมองหาเครื่องสำรองไฟฟ้ารุ่นประหยัดหรือรุ่นพรีเมียม เราก็มีตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับทุกความต้องการ
สามารถติดต่อสอบถาม ร่วมวางแผนเป็นไปตามความต้องการของคุณได้ค่ะ
ไลน์ : https://lin.ee/hHBrup5
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/profile.php?id=61558303007062
โทรติดต่อ : 02-152-6590, 095-956-4514, 084-053-1494